17 สิงหาคม 2563
🍇 บันทึกการเรียนครั้งที่ 1 🍇
🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮
🍇 ความรู้ที่ได้รับ 🍇
วันนี้อาจารย์ให้นั่งเป็นกลุ่มตามโรงเรียนที่ได้ไปสังเกตการสอน จากนั้นอาจารย์ได้ทบทวนความรู้เก่า โดยการตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนวัตกรรมการสอนต่างๆ ว่ามีนวัตกรรมการสอนอะไรบ้างที่เรารู้จัก
🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮
🍇 นวัตกรรมการสอน 🍇
💜 การสอนแบบโครงการ (Project Approac )
เป็นการศึกษาอย่างลงลึกในหัวเรื่องใดหัวเรื่องหนึ่ง โดยเด็กเป็นรายบุคคล เป็นกลุ่ม หรือทั้งชั้นเรียน เป็นวิธีสอนที่เหมาะสำหรับเด็ก
🍆 โครงสร้างของการสอนแบบโครงการ มีดังต่อไปนี้
1. การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)
2. การทำงานภาคสนาม (Field Work)
3. การนำเสนอประสบการณ์
(Representation)
4. การสืบค้น (Investigation)
5. การจัดแสดง (Display)
🍆 โครงการมี 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 ทบทวนความรู้เดิมและความสนใจของเด็ก
ระยะที่ 2 ให้เด็กมีประสบการณ์ใหม่
และมีโอกาสสืบค้นเพื่อหาคำตอบ
💜 การสอนแบบไฮสโคป
ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา (Cognitive Theory) ของเปียเจต์ (Piaget) เป็นพื้นฐานโดยเฉพาะการสร้างองค์ความรู้ของผู้เรียนซึ่งเน้น การเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) นวัตกรรมการสอนแบบไฮสโคป จึงเน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ด้วยสื่อและ กิจกรรมที่เหมาะ สมกับพัฒนาการของเด็ก และการแก้ปัญหาอย่างกระตือรือร้น
💜 การศึกษาวอลดอร์ฟ
ดังนั้น การศึกษาวอลดอร์ฟจึงมุ่งพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่มีบุคลิกภาพที่สมดุลกลมกลืนและให้เด็กได้ใช้พลังทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสติปัญญา ด้านศิลปะและด้านการปฏิบัติอย่างพอเหมาะนั่นเอง
การศึกษาต้องพัฒนามนุษย์ไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์ด้วยการพัฒนาให้มนุษย์เข้าถึงสัจธรรมการสอนต้องเน้นให้เด็กคิด จนเกิดปัญญา เห็นสัจธรรมและความจริงในโลก ต้องพัฒนาร่างกายและจิตวิญญาณควบคู่กันโดยให้เกิดความสมดุลในการเรียนรู้ด้วยกาย(ลงมือกระทำ) หัวใจ (ความรู้สึก ความประทับใจ) และสมอง (ความคิด ) โดยยึดหลัก ดังต่อไปนี้
1. การทำซ้ำ ( Repetition) เด็กควรได้มีโอกาสทำสิ่งต่างๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนการกระทำนั้นซึมลึกลงไปในกายและจิตจนเป็นนิสัย
2. จังหวะที่สม่ำเสมอ( Rhythm ) กิจกรรมในโรงเรียนต้องเป็นไปตามจังหวะสม่ำเสมอเหมือนลมหายใจเข้า – ออก ยามจิตใจสงบและผ่อนคลาย เด็กจะได้รู้สึกมั่นคงและปลอดภัย
3. ความเคารพและการน้อมรับคุณค่าของทุกสิ่ง (Reverence) กิจกรรมและสื่อธรรมชาติที่จัดให้เด็กเพื่อให้เด็กเคารพและน้อมรับคุณค่าของสิ่งต่างๆที่เกื้อหนุนชีวิตมนุษย์ ความเคารพและน้อมรับคุณค่าของสิ่งต่างๆจะเป็นแก่นของจริยธรรมตลอดชีวิตของเด็ก
💜 การสอนภาษาแบบธรรมชาติ ( Whole Language Approach )
💜 การสอนแบบมอนเตสซอรี่
จากนั้นให้แต่ละโรงเรียนเล่าถึงกิจกรรมที่เด็กได้ทำกันในตอนเช้า ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็จะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่อาจารย์ได้แนะนำคือ หลังจากเสร็จ กิจกรรมหน้าเสาธง ควรมีการทำกิจกรรม Home Room เพื่อให้ครูและเด็กได้พบปะพูดคุยกัน อาจะมีการเล่าข่าวในแต่ละวัน หรือ เป็นการที่ครูมอบหมายให้เด็กนำสิ่งที่ตนรักที่สุดมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง เพื่อเป็นการช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาให้แก่เด็ก แล้วจึงค่อยตามด้วย 6 กิจกรรมหลัก
🍇 6 กิจกรรมหลัก 🍇
ประกอบด้วย
1. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
2. กินกรรมเสริมประสบการณ์
3. กิจกรรมเสรี
4. กิจกรรมสร้างสรรค์
5. กิจกรรมกลางแจ้ง
6. กิจกรรมเกมการศึกษา
จากนั้นอาจารย์ให้ร้อเพลงมือกุมกัน และ เพลงนั่งสมาธิ ของ ศาสตราจารย์ อำไพ สุจริตกุล เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกเพลงไปใช้เก็บเด็กในบริบทต่างๆ
" ครูพูดกับเด็กช้าๆ : เด็กยืนขึ้น ยืนตัวตรงๆ เด็กๆยกมือขวามากุมที่ข้อมือซ้าย แล้วหลับตาลงช้าๆ แล้วครูร้องพลง
เพลง มือกุมกัน
มือกุมกันแล้วก็ยืนตรงๆ (ซ้ำ)
ยืนหนอ ยืนหนอ ยืนหนอ ยืนตรง
เมื่อร้องจบ ครูพูดกับเด็กว่า : ยกมือขวามาไว้ข้างลำตัว แล้วยกมือซ้ายมาวางข้างลำตัว แล้วเด็กๆค่อยๆ ลืมตาขึ้น "
เพลง นั่งสมาธิ
นั่งขัดสมาธิให้ดี สองมือวางทับกันทันที
หลับตาตั้งตัวตรงสิ ตั้งสติให้ดี
ภาวนาในใจ พุทโธ พุทโธ พุทโธ
จากนั้นอาจารย์ได้มอบหมายงาน โดยแจกกระดาษให้กลุ่มละ 1 แผ่น และสีกลุ่มละ 1 กล่อง แล้วให้ภายในกลุ่มปรึกษากันเกี่ยวกับ "กิจกกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ" ที่เคยเรียนมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อทุกกลุ่มทำงานที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ให้นำของทุกกลุ่มมาวางติดไว้ที่หน้าห้องอย่างเหมาะสม ๆ แล้วอาจารย์ก็สรุป เกี่ยวกับ "กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ"
🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮
🍇 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 🍇
หมายถึง กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างอิสระ โดยใช้เสียงเพลง จังหวะและทำนอง คำคล้องจอง หรือเครื่องดนตรีประกอบการเคลื่อนไหว เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้จังหวะ และควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้
🍆 วัตถุประสงค์ :
1. แบบผู้นำผู้ตาม
2. ตามคำบรรยาย
3. ประกอบเพลง
4. ปฏิบัติตามคำสั่ง
5. เพื่อความจำ
🍆 ลักษณะการเคลื่อนไหว :
1. ทิศทาง ➤ ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างๆ
2. ระดับ ➤ ต่ำ กลาง สูง ( จากระดับหัวไหล่ )
🍆 รูปแบบการเคลื่อนไหว (การเคลื่อนไหวพื้นฐาน) :
1. การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ ได้แก่ ตบมือ ผงกศีรษะ ขยิบตา ชันขา เคาะเท้า เคลื่อนไหวมือและแขน มือและนิ้ว เท้าและปลายเท้า
2. การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ ได้แก่ คลาน คืบ คาน เดิน วิ่ง กระโดด ควบม้า ก้าวกระโดด เดินต่อเท้า ลื่นไถล
🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮🔮
🍇 การประเมิน 🍇
ประเมินตนเอง : มีความตรงต่อเวลา และช่วยเพื่อนๆตอบคำถามได้
ประเมินเพื่อน : เพื่อนให้ความร่วมมือดี มาเรียนตรงเวลา ช่วยกันตอบคำถามได้อย่างดี
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มาตรงเวลา มีคำถามมากมายให้ได้คิดทบทวน และให้แสดงความคิดเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น